วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2552

(Just like) Starting Over

วันนี้เป็นวันว่างๆ อีกวันในที่ทำงาน เพราะ ที่ทำงานต้องโละระบบการตรวจงาน-ส่งงานกันใหม่ ผมเลยมีเวลามานั่งอัพบล็อกในที่ทำงานซะอย่างนั้น

พูดถึงเรื่องโละใหม่และเริ่มต้นใหม่ เราเคยลองคิดกันบ้างมั้ยว่า ในชีวิตเรามีการเริ่มต้นใหม่อะไรกันบ้างนับแต่จำความกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ๆ ในโรงเรียนอนุบาล เริ่มหัดเขียน เริ่มหัดอ่าน เริ่มหัดวาดรูป เริ่มหัดชอบหญิง / ชาย เริ่มริที่จะเมาเหล้า-ดูดบุหรี่ และ เริ่มต้นอะไรอีกสารพัด มาลองๆ คิดดูแล้ว ชีวิตคนเรามันสามารถมีการเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ ได้ตลอดโดยที่เราเองก็ไม่เคยนับซะด้วยสิว่าเริ่มต้นอะไรในชีวิตไปกี่ครั้งแล้ว

บางครั้งก็เริ่มต้นกับสิ่งใหม่ไปเลย

บางครั้งก็เริ่มต้นใหม่กับเรื่องเก่าๆ ที่เคยทำมาแต่หยุดไป เพราะ เหตุผลที่เราอ้างได้สารพัดว่าทำไม

ชีวิตผมตั้งแต่จบมหาลัยมานี่ก็เจอกับการเริ่มต้นใหม่ในชีวิตการทำงาน และ ความรักมาพอสมควร แต่กลับมีอยู่เรื่องนึง ที่คัวผมเองเคยเดินออกจากเส้นทางนั้นมา เพราะ คิดว่า แม่งไม่มีกินแหงๆ ทั้งที่ก่อนหน้าที่จะเริ่มทำอาชีพนี้ผมเองนี่แหละที่เป็นคนฟาดฟันกับที่บ้านผมแทบแย่ พิสูจน์ตัวเองตั้งไม่รู้กี่ดอก เกือบจะเรียนไม่จบก็เพราะมัน แต่สุดท้ายผมกลับเดินหนีเส้นทางนี้ออกมาดื้อๆ ซะงั้น

ผมกำลังพูดอาชีพนักเขียนการ์ตูน หรือ คอมิคอาร์ติสต์ 

ผมจำได้ว่าผมเริ่มฝันที่จะทำอาชีพนี้มาตั้งแต่ซักประมาณ 8 ขวบได้ หลังจากได้ดูดราก้อนบอลล์ และ เซย่าเทพบุตรหมัดดาวหาง หัดวาดอะไรเองมาเรื่อย สู้มาตลอดเรียนมหาลัยก็เอาเงินการ์ตูนนี่แหละมาจ่ายเรียน เพราะ ตอนนั้นเริ่มทำงานที่สำนักพิมพ์เล็กๆ แล้ว ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า ทำไปเถอะ ทำไป ไม่มีจะแดกก็ช่างแม่ง ทนได้เว้ย แต่ความจริงในชีวิตกับสิ่งที่เราอยากให้มันเป็นมันมักจะสวนทางกันเสมอ เมื่อมาวันนึงที่ผมรู้สึกว่า เราไปต่อกับอาชีพนี้ไม่ได้ เราต้องหาอย่างอื่นทำและทำอาชีพนี้เป็นงานอดิเรกแทน ผมก็เดินออกมาหางานที่เงินดีกว่า

แรกๆ ก็รู้สึกว่าดีนะ มีเงินใช้เยอะขึ้น และเรายังวาดรูปได้เหมือนเดิม แต่หลังจากใช้ชีวิตตามกระแสตลาดงานกราฟฟิกของบ้านเราได้ซักระยะ (ประมาณ 5 ปีได้) ผมกลับคิดว่า ผมโหยหาอะไรบางอย่าง อะไรนะที่มันหายไป...

นั่นสิ...อะไรหว่า

คิดมาเรื่อย จนกระทั่งวันที่เกิดเหตุเมาปริบชีวิตเปลี่ยนในบทความที่แล้วนี่แหละถึงคิดออกว่า ขาดอะไร

เราขาดแรงบันดาลใจไปซะแล้ว ผมไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นอย่างผมมั้ย แต่ระยะหลังๆ ผมรู้สึกตัวเลยว่า เวลาหลังเลิกงานมันช่างเหนื่อยหนักสาหัสเหลือเกิน เราอยากกลับบ้าน ไปนั่งเล่นเกมที่เราซื้อมาให้จบไปทุกโหมด ไม่ก็ไปนั่งส่องหญิงเพลินๆ นั่งจีบสาวเชียร์เบียร์ ที่ร้านเหล้าร้านประจำ ทำอย่างนี้ซะบ่อยจนสิ่งที่เคยเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิตเรามาตลอด 20 ปีมันเริ่มห่างหายไปโดยที่เราไม่ตั้งใจ

มาวันนึงพี่ที่ผมรู้จักเขาติดต่อมาและเอ่ยปากขอพอร์ตโฟลิโอล่าสุดที่เป็นรูปวาด เราก็สะอีกไป เพราะ หลังๆ มันมีแต่พอร์ตงานกราฟฟิกกับงานออกแบบตัวการ์ตูนที่เป็นเวกเตอร์ งานวาดด้วยมือที่เคยถนัดมากนี่ไม่ได้ทำเลย แต่เราก็อยากรับงานนี เพราะ ตังค์ไม่ค่อยจะมีแล้ว และมีอะไรบางอย่างมันผลักให้เรารับงานนี้ทันที

ผมใช้เวลาวาดรูปแรกอยู่นาน นับเป็นวันเลยก็ได้ ทั้งที่แต่ก่อนเคยแก้งานส่งบ.ก. 16 หน้าได้ใน 1 คืนซะด้วยซ้ำไป วาดเสร็จผมก็ส่งทันที ไม่ทันจะครึ่งชั่วโมงดี ลูกค้าก็ติดต่อกลับมา บอกว่าชอบมาก และอยากนัดคุยงานกันให้ไวที่สุด

ในตอนนั้นมันมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น มันคล้ายกับได้เจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันและมันทักว่า "ไงวะมึง ไม่เจอกันนานเลยนะ จำกูได้มั้ยเนี่ย" 

มันเป็นเพื่อนเก่าที่ชื่อว่าแรงบันดาลใจ

อาจจะฟังแล้วดูตลกแต่แรงบันดาลใจมันมาจากอะไรได้หลายๆ อย่างนะ และกับนักเขียนการ์ตูนเนี่ยคำชมของแฟนการ์ตูนกับเสียงตอบรับของ บ.ก. มันเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญกับนักเขียนการ์ตูนมากนะ มันสามารถทำให้อยู่กันข้ามวันข้ามคืนได้เพียงแค่ให้งานเสร็จ เพราะ มีคนรองานเราอยู่ นักเขียนการ์ตูนอยู่ได้ เพราะ มีแฟนการ์ตูนใส่ใจ แต่ผมเลือกที่จะออกมาเดินในทางของพนักงานออกแบบกราฟฟิกกินเงินเดือนที่เราต้องใส่ใจกับลูกค้า ใส่ใจกับคำสั่งของเจ้านาย ต้องแก้อะไรที่มันดูดีๆ ให้มันดูแย่ เพียงแค่ลูกค้าบอกว่าดี เจ้านายบอกอย่างนี้แหละโดน เจออะไรแบบนี้นานๆ เข้าชีวิตมันก็จืดไปในที่สุด และกับอดีตนักเขียนการ์ตูนอาชีพอย่างผมที่ไฟมันกำลังจะมอดไปพร้อมกับอายุที่ใกล้เลข 3 และ ภาระต่างๆ ที่ตัวเองสร้างขึ้นมาในช่วงที่เป็นมนุษย์เงินเดือนนั้น คำชมคำนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำขันเล็กๆ ที่ราดลงมาบนหญ้าที่กำลังจะเฉาตายให้มันกลับมีชีวิตต่อได้ด้วยตัวมันเอง

การกลับมาวาดรูปใหม่อีกครั้งนี้ผมรู้สึกเหมือนตอนที่เอางานไปให้ บ.ก. หนังสือดูครั้งที่เป็นเด็กปี2 เอ๊าจริงๆ ฟังดูเว่อนะ แต่ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ มันกลับมาสนุกกับงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อมาก จริงๆ การเริ่มต้นอะไรใหม่หลายๆ ครั้งมันดูเหมือนคนไม่เอาไหน แต่ยางครั้งการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ในทางเดินเก่าๆ มันก็สนุกดี หรือใครจะปฏิเสธว่า การได้เจอและนั่งลงคุยกับเพื่อนเก่านานๆ มันสนุกและเพลินขนาดไหน ตอนนี้ผมยังอยู่ที่ออฟฟิส เดี๋ยวถึงบ้านแล้วจะเอารูปที่วาดวันนี้ขึ้นบล็อกซะที 

ก็บล็อกนี้มันบล็อกสำหรับแปะงานนิ จะไม่แปะงานเลย ลงแต่บทความอย่างเดียวมันก็แปลกไปหน่อย 

จริงมั้ย?





ไม่มีความคิดเห็น: